ERP อสังหาริมทรัพย์ ERP Real Estate

logo
 
  

เทคนิค EVA (Earned Value Analysis) รู้สถานะโครงการที่แท้จริง

 

“ตอนนี้โครงการดำเนินงานไปถึงไหนแล้ว ? “
“สถานะโครงการเป็นอย่างไร มันเป็นไปตามแผนที่วางไว้จริงหรือเปล่า ?”

 

                    วันนี้น้องแมงโก้จะมาแนะนำ เทคนิคการบริหารโครงการรูปแบบใหม่ ด้วยวิธีวิเคราะห์มูลค่าที่ได้รับ หรือการวัดประสิทธิภาพผลดำเนินงานด้วย Earned Value Analysis (EVA)
                    ช่วยให้คุณติดตามสถานะโครงการได้อย่างแท้จริง มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

 

Earned Value Analysis (EVA) คือ

 

Earned Value Analysis หรือ EVA  คืออะไร ?

                    การวัดผลการดำเนินโครงการ โดยเปรียบเทียบระหว่างผลการดำเนินงานจริงกับแผนงานที่วางไว้ ซึ่ง EVA จะแสดงถึงสถานะการใช้งบประมาณ และประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างแท้จริง
                    EVA เป็นเครื่องมือช่วยประเมินความสำเร็จของโครงการ ช่วยในการวิเคราะห์ กำหนดทิศทาง และคาดคะเนสถานการณ์โครงการในอนาคตได้

ค่าอะไรบ้างที่ใช้ในการวิเคราะห์แบบ EVA ?

1. ต้นทุนประมาณการของงานตามแผนเวลาที่ต้องการ  (Budgeted Cost of Work Scheduled : BCWS หรือ Planned Value : PV)

2. ต้นทุนประมาณการของผลงานที่ดำเนินการ  (Budgeted Cost of Work Performed : BCWP หรือ Earned Value : EV)

3. ต้นทุนเกิดขึ้นจริงจากงานที่ดำเนินการแล้ว (Actual Cost of Work Performed : ACWP หรือ Actual Cost : AC)

 

จะทราบสถานะโครงการได้อย่างไร ?

ก่อนเราจะเริ่มต้นวิเคราะห์สถานะโครงการ เรามาทำความรู้จักความหมายของค่าต่างๆก่อนนะ

 

1.ค่าความแตกต่างทางด้านแผนงาน (Schedule Variance : SV)

                    ในระยะเวลาเท่านี้ งานล่าช้ากว่าแผนหรือเร็วกว่าแผนอยู่เท่าไร

 

SV = EV- PV

 

หมายความว่า

  • SV เป็น 0     คือ งานเป็นไปตามแผนที่วางไว้
  • SV เป็น ลบ   คือ มูลค่าโครงการที่ได้รับ น้อยกว่า มูลค่าของแผนที่ประมาณการไว้ ( งานล่าช้ากว่ากำหนด)
  • SV เป็น บวก คือ มูลค่าโครงการที่ได้รับ มากกว่า มูลค่าของแผนที่ประมาณการไว้ (ดำเนินงานเร็วกว่าที่กำหนด)

 ค่าความแตกต่างทางด้านแผนงาน (Schedule Variance : SV)

 

                    จากภาพ ในเดือนเมษายน มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับ(PV) อยู่ที่ 35 ล้านบาท ผลปรากฎว่ามูลค่าที่ได้รับจริง(EV) ในเดือนเมษายน ได้เพียง 25 ล้านบาท 

จากสูตรข้างต้น จะเห็นได้ว่ามูลค่าที่ได้รับน้อยกว่าที่คาดไว้ อยู่ 10 ล้านบาท หมายความว่าตอนนี้โครงการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้

 

2.ค่าความแตกต่างทางด้านต้นทุน (Cost Variance : CV)

 

CV = EV- AC

 

หมายความว่า

  • CV เป็น 0     คือ มูลค่าที่ได้รับ เท่ากับ ต้นทุนที่ใช้ไป
  • CV เป็น ลบ   คือ มูลค่าที่ได้รับ น้อยกว่า ต้นทุนที่ใช้ไป
  • CV เป็น บวก คือ มูลค่าที่ได้รับ มากกว่า ต้นทุนที่ใช้ไป

ค่าความแตกต่างทางด้านต้นทุน (Cost Variance : CV)

 

                    ตัวอย่างจากภาพ ในเดือนเมษายน มูลค่าที่ได้รับจริง(EV) ในเดือนเมษายน ได้เพียง 25 ล้านบาท แต่มีต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง คือ 40 ล้านบาท หมายความว่า ตอนนี้มีการใช้เงินเกินกว่ามูลค่าที่ได้รับจริง

 

3. ตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางด้านเวลา (Schedule Performance Index : SPI)

 

SPI  = EV/ PV

 

  • SPI = 1 คือ ระยะเวลางานที่เสร็จป็นไปตามแผนที่วางไว้
  • SPI < 1 คือ ระยะเวลางานที่เสร็จ ช้ากว่า ที่กำหนดไว้
  • SPI > 1 คือ ระยะเวลางานที่เสร็จ เร็วกว่า ที่กำหนดไว้

 

4. ตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางด้านต้นทุน (Cost Performance Index : CPI)

 

CPI  = EV/ AC

 

  • CPI = 1  คือ ต้นทุนเป็นไปตามแผนที่วางไว้
  • CPI < 1 คือ มูลค่าที่ได้รับ น้อยกว่า ต้นทุนที่ใช้ไป
  • CPI > 1 คือ มูลค่าที่ได้รับ มากกว่า ต้นทุนที่ใช้ไป

 

 

 สรุปการคำนวณผลงานที่ได้ สถานะโครงการ

  

กรณี : CPI > 1 แต่ SPI < 1  

                    แสดงว่าตอนนี้โครงการ ใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่งานที่ได้กลับล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้

ข้อแนะนำ

  • เพิ่มทรัพยากร เช่น คน เครื่องจักร 
  • การทำงานล่วงเวลา
  • ติดตามสถานะการดำเนินงาน

 

กรณี :  CPI < 1 แต่ SPI > 1    

                    แสดงว่าตอนนี้โครงการ ทำงานเสร็จไวกว่าแผนที่วางไว้ แต่ต้นทุนที่ใช้เกินกว่ามูลค่างานที่ได้รับจริง

ข้อแนะนำ

  • ลดจำนวนคน
  • ตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • วางแผนการใช้ทรัพยากร

 

กรณี : CPI > 1 และ SPI > 1    

                    แสดงว่าตอนนี้โครงการ มีการบริหารจัดการที่ดี เพราะ สามารถทำงานได้เร็วกว่าที่กำหนด และสามารถควบคุมต้นทุนให้น้อยกว่ามูลค่าที่ได้รับจริง

ข้อแนะนำ

  • ให้รางวัลแก่พนักงาน ทีมงาน

 

กรณี :  CPI < 1 และ SPI < 1  

                    แสดงว่าตอนนี้โครงการ กำลังเผชิญกับปัญหาในการบริหารจัดการโครงการ เนื่องจากทำงานล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังมีการใช้เงินมากกว่ามูลค่าที่ได้รับจริง

ข้อแนะนำ

  • หาสาเหตุของปัญหาทันที พร้อมปรับปรุงแก้ไข
  • ติดต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อขอเพิ่มงบประมาณและขยายเวลา
  • จัดลำดับความสำคัญของงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพทีมงาน
  • เลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่มีส่วนช่วยบริหารโครงการ ควบคุมงบประมาณ

 

Mango Project Management  

  • วางแผนการใช้ทรัพยากร และการดำเนินงาน 
  • ติดตามสถานะงานของทุกโครงการได้อย่าง Real time
  • แสดงภาพรวมของทุกโครงการ
  • วัดประสิทธิภาพผลดำเนินงานด้วย Earned Value Analysis (EVA)
  • สามารถเลือกดูรายงานได้อย่างครบถ้วน

 

                    ไม่ว่าสถานการณ์โครงการในปัจจุบันจะเป็นเช่นไร อย่าลืมหัวใจสำคัญ คือ การติดตามวิเคราะห์ผล เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางโครงการให้เป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้น และเก็บข้อมูล ผลการดำเนินงาน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำขึ้นอีก

 

รู้ตัวเร็ว ทราบสถานะโครงการได้ทันที 

ยังไม่สายเกินไปถ้าคุณจะเลือกใช้ โปรแกรม Mango Project Management

ความสำเร็จของลูกค้า คือ ความสำเร็จของเรา

ข้อมูลอ้างอิงจาก : https://bit.ly/3gqtYtG

--------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติ

เตรียมความพร้อมให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อการเติบโตในอนาคต

--------------------------------------------------------------------------------------------------

facebook mango

line mango

 

 

 

เว็บไซต์ของแมงโก้มีการใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้คุณได้เข้าใช้งานได้อย่างมีอิสระ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก“นโยบายการใช้คุกกี้” นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา